14 พ.ค. 2555

9 เหตุผล คนธุรกิจเครือข่ายไม่ประสบความสำเร็จ


            นี่คือเหตุผลที่ว่ากว่า 90% ของคนที่เข้าร่วมทำธุรกิจการตลาดเครือข่ายจะล้มเหลว ลองประเมินธุรกิจของคุณเองสิว่า มันตรงกับตัวคุณจริงหรอไม่แล้วเราจะมีแนวทางในการแก้ไขอย่างไร แล้วเรามาลองดูกันกับ เหตุผลที่ว่า ทำไมคนล้มเหลวในธุรกิจเครือข่าย
                เลือก  :   ก่อนที่คุณจะลงทุนเวลาและเงินของคุณในการดำเนินธุรกิจนั้น   คุณจะต้องเลือกบริษัทที่มีความเข้มแข็งทางการเงิน  มีระบบการจัดการที่ดีมีผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มาตรฐานรวมไปถึงแผนการตลาดและความต้องการของตลาดในอนาคต เพราะทั้งหมดนั้นเป็นความจำเป็นและโครงสร้างพื้นฐานที่จะทำให้เราเติบโตได้ในธุรกิจของเรา   แต่ถ้าหากคุณเลือกผิดนั้นก็หมายถึงความล้มเหลวที่จะตามมา

            upline   เลือก upline แบบไหนที่จะทำให้คุณประสบผลสำเร็จเขาจะทำอะไรให้คุณได้บ้าง  ธุรกิจเครือข่ายส่วนใหญ่จะเจอแต่ upline  ที่ไม่มีประสบการณ์ในการทำงานมาก่อน  แต่จะเป็นการพาเราไปประชุมในที่ต่างๆ เหล่านี้เป็นการเสียเวลา ค่าใช้จ่ายต่างๆ  สุดท้ายจะปล่อยให้เราทำงานเองและและทั้งหมดนั้นจึงกลายเป็นความล้มเหลวเพราะเราไม่สามารถทำตามได้ด้วยเวลาที่จำกัดของต่ละคน แต่ upline ที่ดีนั้นจะต้องมีเวลาให้กับเรา ให้คำปรึกษาแนะนำ และฝึกฝนและสร้างให้เราสามารถเป็นผู้นำให้กับผู้ที่จะมาร่วมทำงานกับเราต่อไปได้  และ
เป็นที่ที่เราสามารถเรียนรู้ได้ง่าย
             เป้าหมายไม่ชัดเจน : คุณต้องกำหนดเป้าหมายของคุณให้ชัดเจน มีการวางแผนและทำตามตารางที่คุณตั้งไว้และปฏิบัติตามให้ได้ในแต่ละวัน   จะทำให้คุณสามารถพัฒนาตนเองและประสบความสำเร็จ ในธุรกิจของคุณได้ การตั้งเป้าหมายเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะนั้นคือจุดสูงสุดในสิ่งที่เรากำลังทำ

               เน้นการสร้างรายได้ : การทำงานเพื่อให้ได้เงินเร็วนั้นเป็นสิ่งสำคัญ   แต่การเน้นของคุณควรจะเป็นการช่วยเหลือผู้อื่นประสบความสำเร็จ Zig Ziglar กล่าวว่า"   คุณสามารถมีทุกสิ่งที่คุณต้องการหากคุณเพียงแค่ช่วยให้คนอื่นได้ในรับสิ่งที่เขาต้องการ" ออกไปช่วยเพื่อนของคุณให้พวกเขาประสบความสำเร็จ    และคุณก็จะประสบความสำเร็จ ยิ่งกว่า แต่นั้นคงไม่ใช่ประเด็นหลักสำหรับผู้ที่ทำงานเครือข่าย    แต่อยู่ที่ว่าคุณไม่รู้ว่าจะไปช่วยพวกเขาเหล่านั้นได้อย่างไร มันไม่ใช่เรื่องยากที่คุณจะได้เรียนรู้วิธีที่จะช่วยผู้อื่นได้อย่างไร    หากเพียงแค่ว่าคุณต้องการเรียนรู้มันมากแค่ไหนต่างหาก
            ทำธุรกิจเช่นงานอดิเรก : หากคุณทำธุรกิจของคุณ เช่นงานอดิเรก   ผลตอบแทนที่ได้นั้นก็จะเป็นเหมือนงานอดิเรก    หากคุณทำเช่นงานที่คุณทำเป็นประจำผลตอบแทนก็จะได้เช่นงานประจำเช่นกัน    แต่คุณรู้ใช่ไหมว่า ถ้าคุณทำธุรกิจเครือข่ายของคุณเองและทุ่มเทการทำงานให้เช่นงานประจำที่คุณทำ     ผลตอบแทนที่ได้กลับมานั้น มันยิ่งกว่าการทำงานประจำที่คุณทำมากกว่าเป็นไหนๆ
             ไม่ ได้ติดต่อคนมากพอ หลายคนที่ล้มเหลวในธุรกิจนี้ไม่ใช่เพราะเขาไม่ติดต่อคนหรอก   แต่เป็นเพราะเขาไม่รู้วิธีที่จะติดต่อกับผู้คนเหล่านั้นได้อย่างไรมากกว่า     ผู้คนส่วนใหญ่ที่เขาติดต่อก็จะเป็นคนที่เขารู้จักโดยเริ่มจากญาตพี่น้อง เพื่อนๆ แต่นั้นมันยังไม่เป็นการติดต่อกับคนได้มากพอ มีวิธีที่ดีกว่านั้นมาก  โดยที่คุณเองไม่ต้องเดินทางไปไหนด้วยซ้ำ...คุณเชื่อไหม...ถ้ายังไม่เชื่อผมขอถามคุณว่า..งั้นผมติดต่อคุณได้อย่างไรครับใช่แล้ว นี่ไง Internet เป็นการสื่อสารที่นับได้ว่ามีประสิทธิภาพสูงสุดในตอนนี้ก็ว่าได้    หลายคนยังสงสัย?   ต้องเรียนรู้ครับ เรียนรู้วิธีการทำตลาดเครือข่ายบน Internet ครับ และยังมีอีกหลายวิธีในการติดต่อสื่อสารกับผู้คน เดี่ยวมาคุยเรื่องนี้กันคราวหน้าครับ

             
ขาดความอดทน : คนส่วนใหญ่ที่ทำธุรกิจเครือข่ายใจร้อนเกินไป   เพราะความเข้าใจผิดที่ว่าการทำธุรกิจนี้จะประสบความสำเร็จในเวลาอันรวดเร็ว เมื่อไม่สำเร็จประกอบกับการทำธุรกิจที่ไม่ถูกต้อง    จึงหมดความอดทนและล้มเหลวในที่สุด เพราะนี่คือธุรกิจมันต้องใช้เวลาในการสร้าง  ลองเปรียบเทียบกับกิจการ ส่วนใหญ่ใช้เวลา 3-5 ปีกว่าจะได้รับผลตอบแทน แต่นั้นก็ไม่ได้ผิดไปเลยที่เดียว เพราะธุรกิจเครือข่ายสามารถทำให้คุณมีรายได้ภายในไม่กี่เดือน เพียงแต่คุณต้องเรียนรู้วิธีที่ถูกต้อง ในการทำตลาดแบบเครือข่าย เพื่อจะนำพาคุณไปสู่ความสำเร็จสูงสุดอย่างรวดเร็ว
       เป็นไงบ้างครับกับ 9 ข้อ หากไม่อยากล้มเหลวก็นำเอาปฎิบัติปรับใช้กับธุรกิจของคุณเองได้เลยนะครับ  และหวังว่าทุกๆคนจะประสบความสำเร็จกันนะครับ

11 มี.ค. 2555

10 วิธีเขียนบทความ ( blog) ที่ผู้อ่านต้องกด Like !

 
เพิ่มคำอธิบายภาพ
    การเขียนบทความ นอกจากจะมีเนื้อหาที่เป็นสาระสำคัญแล้ว  ยังต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างที่จะทำให้เป็นที่น่าสนใจและมีผู้ติดตาม  และหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นแบบไหน ยังไงดี
        
   วันนี้ผมมี 10 วิธีการเขียนบทความที่จะทำให้ผู้อ่านเกิดความสนใจ และตามกด Like ! กันเลยทีเดียว  
มาเริ่มกันเลยครับ



 1. พาดหัวข่าว
           สิ่งแรกที่จะดึงดูดให้คนเข้ามาที่บล็อกของคุณนั่นก็คือ หัวเรื่องนั่นเอง การเขียนหัวเรื่องนอกจากจะมี คีย์เวิดร์ ที่ดีและสอดคล้องกับเนื้อหาแล้ว ยังต้องฟังแล้วน่าสนใจ ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการพาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์ ที่ใช้คำที่น่าตื่นเต้น ฉงน ชวนให้สงสัยน่าติดตามยกตัวอย่างบทความเรื่องนี้  ตอนแรกชื่อเรื่อง 10 วิธีการเขียนบทความที่ทำให้คนสนใจ แต่ฟังแล้วไม่ค่อยน่าสนใจเลยผมเลยเปลี่ยนเป็น 10 วิธีเขียนบทความ( blog) ที่ผู้อ่านต้องกด Like ! ok. หรือ เขียนแค่ 10 ข้อ ก็ล้าน Like! อะไรประมานนี้ ยิ่งอ่านแล้วสดุดคนฟังยิ่งดีมากครับ  อย่าลืมนะครับพาดหัวหนักๆไปเลย

  
2. มีจุดมุ่งหมาย
          สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเป้าหมาย โดนเฉพาะการสื่อสาร การเขียนบล็อกจะต้องมีจุดมุ่งหมายว่าสุดท้ายจะให้อะไรกับผู้อ่าน หรือผู้อ่านจะได้อะไรจากบทความของคุณ  โดยก่อนการเริ่มเขียนบทความลงบล็อกทุกครั้ง  จะต้องถามคำถามเหล่านั้นกับตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก  ถ้าไม่มีจุดมุ่งหมายในการเล่าเรื่องแล้ว  ผู้อ่านคงต้องมึนๆงงๆ  ไปตามๆกันสุดท้ายแล้วบล็อกของคุณก็จะไม่มีใครอยากจะเข้า  มาอ่าน เงียบจัง เหอๆ


 3. ใช้ภาษาง่ายๆ
           คือการเขียนด้วยภาษาที่เป็นกันเองมากที่สุด  ด้วยภาษาที่เรียบง่าย  คือเครื่องมือที่จะทำให้เข้าถึงผู้อ่านได้ทันที  และทรงพลังมาก สามารถทำให้คนเชื่อ และรู้สึกคล้อยตามได้ คล้ายกับการสนทนาพูดคุยกับผู้อ่านผ่านบทความ แล้วใครละจะไม่อยากพูดด้วยในเรื่องที่เขามีความสนใจอยู่แล้ว คุณว่าจริงไหมครับ อิอิ


 4. ขี้โม้บ้างก็ได้
โดยทั่วไปแล้วจะพบว่าคนส่วนใหญ่ชอบที่จะฟังเรื่องราวของคนอื่นมากกว่าของตัวเอง  ถ้าวันนี้คุณมีเรื่องที่น่าตื่นเต้น เล่ามาให้ฟังซักหน่อยก็ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น  เพราะคนอ่านชอบที่จะฟังเรื่องนอกเรื่องนอกราวเล็กๆน้อยๆ เพื่อความบันเทิง  นอกจากจะทำให้บล็อกไม่น่าเบื่อแล้ว  ยังสร้างความเป็นกันเองได้อีกทางด้วยนะครับ


5. ไม่สั้นไม่ยาว
ผมหมายถึงบทความนะครับ แหะๆ ก็เหมือนกับที่เราเห็นหนังสือเรียนนั่นและครับเห็นเนื้อหาแล้วมันเยอะจังเลย ขี้เกียจขี้มาทันทีครับ เหอๆๆ   บทความที่สั้นหรือยาวเกินไปจะทำให้ไม่น่าอ่าน และไม่น่าจดจำ  บล็อกเกอร์มืออาชีพแนะนำให้ใช้ 250 - 300 คำเท่านั้น เนื้อหาที่ดีบวกกับความยาวที่เหมาะสมจะทำให้บล็อกของคุณ มีผู้ตามมากด Like อย่างแน่นอนครับ


  6. นำเสนอสิ่งใหม่ๆ
เพื่อให้เป็นที่น่าติดตามของผู้อ่าน  ควรจะนำเสนออะไร ที่จะนำมาเล่าให้ผู้ชมบล็อกของคุณเกิดความรู้สึกใหม่  ความรู้ใหม่ๆมาล้างตาล้างสมองล้างหน้า < อาบน้ำเลยดีกว่าครับ นอกเรื่องอีกแล้ว   เหอๆ >  หรืออาจเป็นความคิดแนวใหม่ สร้างสรรค์จิตนาการอย่างโอเวอร์ ล้วนทำได้ทั้งนั้นครับ บางทีผู้อ่านที่ลืมบล็อกของคุณไปแล้วอาจจะเห็นด้วยกับคุณ  แล้วกลับมาติดตามบล็อกของคุณอีกครั้งก็ได้  แต่ถ้าไม่รู้จะเอาข้อมูลใหม่ๆมาจากไหน ก็ Search ด้วย Google , Ask , Yahoo ได้ง่ายครับ แค่เพียงรู้ว่าต้องใช้คำไหนในการหาให้เจอเท่านั้นเองครับ


7. ความเห็น   แนะนำ
คนที่อ่านบล็อกส่วนใหญ่ล้วนคาดหวังจากคนเขียนบล็อกทั้งสิ้น  ความเห็นที่ตรงไปตรงมาตามความรู้สึกของเจ้าของบล็อก ถือว่าเป็นสิ่งมีค่า  และควรที่จะทำด้วยการสอดแทรกเข้าไปในเนื้อหาอยู่เป็นประจำ  นอกจากความเห็นแล้ว  คำแนะนำที่ดีและเป็นประโยชน์ในเรื่องที่โพส  ก็มีส่วนทำให้คนชอบติดตามบล็อกด้วยเช่นกัน  ทั้งนี้ทั้งนั้น การเสนอความเห็น  และการแนะนำควรหาข้อมูลให้ดีก่อนนะครับเพราะเราอาจจะเสียได้หากแนะนำอะไรที่ผิดๆไป เดี๋ยวจะหาว่าผมไม่เตือนนะคร้าบบบ

  
8. หยุดพักสักนิด คิดสักหน่อย
คงเหนื่อยนะครับถ้าเราวิ่งโดยที่ไม่หยุดพักเลย  ก็เหมือนกันและครับกับการเขียนบทความที่มีความยาวติดกันและไม่รู้จะให้หยุดอ่านตอนไหน  อ่านต่อไปคงเหนื่อยน่าดูครับ  อาจเป็นเพราะบทความมีเนื้อหาเยอะไป ไม่รู้จะตัดออกยังไงเพราะกลัวเนื้อหาไม่ครบ  สิ่งที่ควรทำก็คือพยายามย่อหน้าบ่อยๆจะทำให้อ่านและจดจำได้ง่ายขึ้น  หรือไม่ก็แยกหัวข้อย่อยกันไปเลย เป็นการหยุดพักหรือทบทวนเนื้อหาไปในตัวครับ ถึงตรงนี้แล้วหยุดพักเหนื่อยบ้างก็ได้นะครับ หุหุ


9. นานๆไม่ดีถี่ๆยิ่งชอบ
คิดไปไกลหรือเปล่าครับ คิดเหมือนผมเลย แหะๆ ถี่ที่ว่าคือการโพสบทความในของบล็อกคุณครับ อย่างว่าละครับคน รักกันชอบกันก็ต้องถี่ๆหน่อยคนรักกันก็ต้องคุยกันทุกวันใช่ไหมครับ  เหมือนกันครับอยากให้คนอ่านติดตาม และชอบผลงานคุณต้องหมั่นขยันเขียนบทความดีๆ ที่เป็นประโยชน์ และใหม่ทันต่อเหตุการณ์เสมอ  แล้วแบบนี้จะไม่รักยังไงละครับ


10. สุดยอดวิทยายุทธ
ออกแนวหนังกำลังภายในไปแล้วครับ แฮะๆ  สุดท้ายคือการรวมรวบรวมวิชาครับ  คงไม่ยากเกินไปนะครับที่จะนำเอาหัวข้อต่างๆ  ที่แนะนำไป มาเขียนลงไปในแต่ละบทความของคุณให้เป็นเรื่องที่น่าอ่าน  น่าติดตาม  เชื่อว่าต้องมีคนตามมากด Like ! คุณอย่างแน่นอน และยังมีเทคนิคในการเขียนบล็อกอีกมากมายที่สามารถนำมาปรับใช้กับบล็อกของคุณได้   โอกาสหน้าผมจะนำมาบอกอีกทีนะครับ 
      
สุดท้ายอย่าลืมให้ความคิดเห็นด้วยนะครับ ว่า Like ไม่ Like !    


         เป็นเพื่อนกันทาง  Facebook  ตรงนี้ได้เลยครับ